1 ในคำถามฮิตของมือใหม่หัดขายภาพเวกเตอร์ออนไลน์ คือ “ผมมาถูกทางหรือยัง” คำถามสั้น ๆ ที่ตอบแสนยาก
ทำไมถึงยาก ? ก็เพราะว่าคำถามนี้ คำตอบที่ดีที่สุดและถูกต้องที่สุดไม่ได้อยู่ที่ผมครับ แต่อยู่ที่ “ตัวคุณ”
ก็เหมือนกับ คุณมาถามผมว่าปีหน้าคุณจะรวยไหม ผมก็อาจจะถามกลับว่า แล้วคุณมีเงินเก็บไหมล่ะ? คุณหาช่องทางลงทุนอะไรเพิ่มเติมไหม? คุณพัฒนาตัวเองบ้างหรือเปล่า? แบบนั้นเลย55
ในงานขายภาพเวกเตอร์ ผมก็ต้องถามกลับไปเสมอว่า แล้วคุณมีภาพเท่าไหร่ ?ยอดโหลดเป็นยังไง ? ส่งงานบ้างหรือเปล่า? ทำแนวไหน? เห็นไหมครับ จริง ๆ มันเป็นสิ่งที่คุณต้องถามตัวเองมากกว่าใครๆ
บทความนี้เขียนขึ้นมาเพราะอยากให้คุณรู้จักวิเคราะห์พอร์ทงานตัวเองมากกว่าจะไปพึ่งพาคนอื่น หลายคนก็จะยึดติดกับการพึ่งพาไอดอล เสาะหาแรงบันดาลใจจากคนรอบตัวหลายทิศหลายทางจนสับสนไปหมด จนตั้งโจทย์คำถามเพื่อวิเคราะห์ตัวเองไม่ได้ ลองตั้งคำถามและหาคำตอบให้กับตัวเองสัก 5 ข้อตามนี้ครับ
1.คุณทำภาพส่งบ้างหรือไม่
ข้อนี้สำคัญที่สุด เพราะอะไรรู้ไหมครับ ? เพราะถ้าคุณไม่ทำภาพส่งเลย หรือเคยส่งแต่หยุดไปนานมาก ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะมาวัดผลว่ามาถูกทางหรือยัง การวัดผลพอร์ทที่หวังผลได้คือ ต้องมีจำนวนภาพประมาณหนึ่ง คุณต้องส่งภาพอย่างสม่ำเสมอโดยเฉพาะในช่วงแรกของการสร้างพอร์ท คุณจะส่งวันละ 1 ภาพ หรือทำเก็บเอาไว้ส่งทีเดียวสัปดาห์ละครั้งจะกี่ภาพก็ได้ อันนี้ก็แล้วแต่ ไปบริหารเวลาเอาเอง แต่ขอให้อัตราเร่งเป็นแบบนี้อย่างสม่ำเสมอ (เยอะกว่านี้ได้ยิ่งดี เพราะพอร์ทจะโตเร็วขึ้น) แต่บางคนมี 20 ภาพ ก็มาถามกันแล้วว่ามาถูกทางหรือยัง ยังอีกไกลเลยนะครับนั่น หลายคนที่ประสบความสำเร็จก็มักจะบอกว่าความมีวินัย ความสม่ำเสมอมันช่วยกระตุ้นพอร์ทได้มาก
2.ในแต่ละเดือนยอดรายได้เพิ่มหรือไม่
ถ้าส่งภาพสม่ำเสมอโดยปกติ เมื่อภาพเพิ่มขึ้น ยอดดาวน์โหลดภาพจะมากขึ้นตาม เต็มที่เลย 6 เดือนขึ้นไปหรืออย่างน้อย 500-1000 ภาพขึ้นไป ขึ้นอยู่กับว่าอะไรถึงก่อน (เหมือนเอารถไปเข้าศูนย์ เช็คระยะยังไงยังงั้น) นับตั้งแต่วันที่ส่งภาพแรก แต่ถ้ายอดไม่ขึ้นเลย ทำมาเป็นปีแล้วหรือมีหลายพันภาพแล้ว แสดงว่าพอร์ทคุณมีปัญหาเรื่องคุณภาพงานแล้วครับ อย่าลืมนะครับข้อนี้ต้องอยู่บนพื้นฐานของการส่งภาพสม่ำเสมอ
ภาพแนวไหนในพอร์ทขายดีที่สุด
3.ภาพแนวไหนในพอร์ทขายดีที่สุด
คุณเคยวิเคราะห์หรือเปล่าว่า ภาพแนวไหน สไตล์ไหนในพอร์ทคุณที่ทำรายได้ให้คุณมากที่สุด ระบบของทุกเว็บไมโครสต๊อกก็จะมีเครื่องมือที่ช่วยให้เราดูยอดโหลดจากภาพนั้น ได้อยู่แล้ว จะละเอียดมากน้อยก็ต่างกันไปต่อให้ไม่มีเครื่องมืออะไรช่วย ในฐานะเจ้าของพอร์ทเราก็รู้ได้อยู่แล้วว่าภาพไหนขายดีที่สุดในพอร์ทของเรา ถูกไหมครับ คงไม่มีใครที่สมัครแล้ว ส่งภาพขายอย่างเดียว โดยที่ไม่เข้าไปดูยอดโหลดของตัวเองเลยว่ามีภาพไหนที่ขายได้บ้าง ยกตัวอย่างเว็บ Shutterstock จะมีระบบที่สามารถเข้าไปดูได้ที่อยู่ด้านข้างในหน้า dashboard (หน้าแผนที่)
4.สะสมภาพแนวขายดี
เมื่อเฟ้นหาพระเอกในพอร์ทได้แล้ว ก็ต้องลุยทำภาพส่งแนวนั้นอย่างต่อเนื่องไปอีกสักพัก แม้คุณจะมี 1000 ภาพแล้วก็ตาม แต่อย่าลืมว่าที่ผ่านมาคุณสะเปะสปะและยังไม่มีการเฟ้นหาแนวทางอย่างจริงจัง เป็น 1000 ภาพที่หวังอะไรเป็นกอบเป็นกำแทบไม่ได้ และจากนี้คุณต้องส่งแนวที่จะปั้นเป็นแนวหลักในพอร์ทต่อไปอีกอย่างน้อย ๆ ก็ 500-1000 ภาพ
คุณไม่ต้องกังวลไปหรอกครับ ระหว่างจำนวนภาพใหม่ที่คุณส่งไป ถ้ามันใช่ ยอดดาวน์โหลดภาพในแนวใหม่นี้มันจะเพิ่มขึ้นทุกเดือนอยู่แล้ว เป็นการการันตีว่า มาถูกทางแบบไม่หลงแน่นอน แต่ถ้ามันไม่ช่วยอะไรก็ไปต่อที่ข้อ 5
5.เปลี่ยนแปลงบ้าง
เมื่อถึงจุดหนึ่งแล้วคุณอาจเจอทางตัน ฝ่าฟันในการขายภาพเวกเตอร์ออนไลน์มาแล้ว 2 ปี 3ปี หรือ 5 ปี แนวที่เคยทำเงินให้คุณได้มากเริ่มชะลอตัวหรือตั้งแต่ทำมายังไม่ได้ตามเป้าที่ต้องการ เช่น ได้เดือนละ 3000 บาท มาตลอด 1 ปีไม่เพิ่มขึ้นเลย ทั้งๆที่หลายคนเริ่มพร้อมกันไปเดือนละหลายหมื่นหรือเดือนละแสนแล้ว ทั้งๆที่เราก็ส่งภาพตลอด มันเกิดอะไรขึ้น
แนวทางที่ผมเห็นว่าคุณควรพิจารณาใหม่ก็คือ
ปรับปรุงคุณภาพของงานให้น่าซื้อมากยิ่งขึ้น (เรื่องคุณภาพคงต้องคุยกันอีกหลายบทความ)
เปลี่ยนแนวภาพใหม่ เช่น เปลี่ยนสไตล์ในการทำงานให้เป็นแนวที่กำลังนิยม ศึกษาเทรนด์ว่าแนวภาพที่คุณทำเนี่ย แวดดวงกราฟิกเขาทำให้ออกมาเป็นสไตล์ไหนกันแล้ว หรือ ไปทำภาพประเภทอื่น เช่น จากการ์ตูนมาเป็นไอคอน ไอคอนถ้าคุณทำไม่เวิร์คก็มาเป็นภาพ background
เห็นไหมครับนี่เป็นไกด์แบบง่าย ๆ ที่ได้ผล และจะทำให้คุณมีแนวทางในการพัฒนาพอร์ทว่าจะให้มันไปในทิศทางใด ภาพคีย์เวิร์ดไหนที่ควรทำส่งเพิ่ม สไตล์ไหนที่ลูกค้าชอบ คุณก็เน้นทำภาพไปในทางนั้น ก็แค่นั้นเอง และอย่าลืมว่าเมื่อคุณเจอภาพที่ขายดีในพอร์ทตัวเองแล้ว ก็ต้องสะสมภาพนั้นให้มากขึ้นและคอยวัดผลอย่างสม่ำเสมอเมื่อเวลาผ่านไป